#ตารางปันผล ดอกเบี้ยราคาสูงกว่าธนาคาร ชนิดเป็นการฝากประจำ สามารถเลือกได้ว่า จะใช้ 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน หรือ 12 เดือนในการปันผล
*ปัจจุบันก็มีนายทุนที่ลง หลักพันจนถึงหลักแสน
สงใสใช่ไหมว่า ทำไมดอกเบี้ยถึงเยอะ แต่ท่านจะต้องมียางพารา สำหรับขายโรงงานด้วยนะ ถ้าไม่มีดอกเบี้ยนี้ท่านจะทำไม่ได้ หรือมีอสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้เช่า จะให้มูลค่าดอกเบี้ยอย่างน้อย 6-8%
ยกตัวอย่าง ทุนรับมา 100,000 บาท นำไปซื้อยางพารา และทำกำไรเมื่อขาย 150,000 บาท ใน 1 รอบ อาจใช้เวลา 20-30 วัน กำไรไปแล้ว 5 หมื่นบาท โดยเฉลี่ย กำไรจะสูงหรือต่ำ ขึ้นกับราคายาง ณ ปัจจุบันด้วย และจำนวนยางพาราสะสม
เท่ากับ 150% / 30 วัน บางเดือนอาจจะไม่ได้ยางพารา อาจจะได้จำนวนน้อย ก็ได้
ที่นี้ 150% * คูณ ด้วย 6-8 เดือน อีก 4 เดือน ช่วงฝนหนัก ๆ เท่ากับ 800-1200%
แล้วนำมาปันผลให้กับนายทุน 100/ 3% - 12 %
โดยดอกเบี้ยธนาคารให้ผล ดอกเบี้ยมากสุด 3-4 % ต่อปี หักอัตราเงินเฟ้อ แล้วก็ไม่ถึง 3%
ถ้าเราใช้สูตร 2 คือ ทุน 100% กำไร 10-20 % ต่อ 2 เดือน เฉลี่ย เป็น 120*6 เดือน เท่ากับ 720%
หากคิดอัตราเทียบบัญญัติไตรยางค์ 1 ต่อ 7 เท่า ต่อ 6 เดือน ยังไม่ต้องไปคิดถึง 12 เดือนเราตีเสียเวลา 6 เดือนนั้นคือช่วงปริมาณฝนที่กรีดไม่ได้เลยหรืออาจจะหายางพาราไม่ได้เลย
แต่ภายในเดือนแรกถึง 2 เดือนกำไรไปแล้วจึงนำมาตีผลกำไร ในช่วงไตรมาส 3 เดือนแรก
เพราะเมื่อเราใช้จำนวนต้นทุน 100,000 บาทไปซื้อยางพารามาเสร็จสรรพ พ่อไปขายโรงงานก็จะได้ประมาณ 120,000 ถึง 150,000 บาท ต้นทุนยังอยู่ กำไรประมาณ 2-50,000 บาท
โดยเฉลี่ย
ปล. แค่สมการคิดนะ
แต่เรื่องจริง ผมใช้เวลา 3-4 เดือนเอง แต่ดีที่มีนายทุนหนุนอยู่ ไม่งั้นคงไม่ได้ ยางพาราแน่ !
#ไม่เกี่ยวกับดิจิตอลลงทุน #กำไรส่วนหนึ่งช่วยสวนยาง #กำไรส่วนหนึ่งช่วยสมาชิก เงินตีกลับ #กำไรส่วนหนึ่งขยายกิจการ
ในอนาคตจะยุบโกดังจุดที่ 2 น่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 12 เดือน เพราะในสัญญาเซ็นไว้ 1 ปี หมดสัญญาแล้ว เปิดจุดที่ สามต่อ ขอซื้อในราคา เกือบ10ล้าน จะได้บ้านพร้อมที่ดิน มีโกดังรับซื้อยางด้วย ที่สำคัญมันติดถนน...น่ะสิ
คาดว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 6-8 เดือน ก็น่าจะได้แล้ว จุดที่ 3
ก็ยางพารานี่แหละต่อไป มันก็สามารถมาจัดสรรให้สมาชิก ในอนาคตต่อไป ช่วงนี้เก็บครับเก็บ !!